การไหลแบบปั่นป่วน (Turbulent flow) เป็นปรากฏการณ์สำคัญที่มีผลกระทบอย่างมากต่อการวัดอัตราการไหลในกระบวนการอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม การทำความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะของการไหลแบบปั่นป่วนและผลกระทบต่อการวัดอัตราการไหลจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับวิศวกรและผู้ปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรม
Turbulent flow คืออะไร ?
การไหลแบบปั่นป่วน หรือ Turbulent flow คือ รูปแบบการไหลที่มีลักษณะไม่เป็นระเบียบ เกิดขึ้นเมื่อของไหลมีความหนืดต่ำและไหลด้วยความเร็วสูง หรือเมื่อขนาดของท่อที่ของไหลผ่านมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับปริมาณของไหล ในการไหลแบบนี้ ทิศทางและความเร็วของของไหลจะมีความไม่แน่นอน และเกิดการผสมกันระหว่างชั้นของของไหลขณะเคลื่อนที่ ลักษณะเฉพาะนี้ส่งผลให้การวัดอัตราการไหลมีความซับซ้อนมากขึ้น
การพิจารณาการไหล Turbulent flow ด้วยตัวเลขเรย์โนลด์
ในการระบุว่าการไหลเป็นแบบปั่นป่วนหรือไม่ นิยมใช้ค่าตัวเลขเรย์โนลด์ (Reynolds number, Re) เป็นตัวบ่งชี้ โดยค่า Re ที่มากกว่าหรือเท่ากับ 4000 จะแสดงถึงการไหลแบบปั่นป่วน(Turbulent flow) ในขณะที่ค่า Re น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2000 จะบ่งชี้ถึงการไหลแบบราบเรียบ (Laminar flow) ตัวเลขเรย์โนลด์นี้คำนวณจากความสัมพันธ์ระหว่างคุณสมบัติของของไหล เช่น ความหนาแน่น ความหนืด ความเร็วของการไหล และขนาดของท่อ
ผลกระทบของการไหลแบบปั่นป่วนต่อการวัดอัตราการไหล
Turbulent flow ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการวัดอัตราการไหล ทำให้การเลือกใช้และการติดตั้ง Flow meter ที่เหมาะสมมีความสำคัญมากขึ้น ผลกระทบหลักๆ ได้แก่:
- ความไม่สม่ำเสมอของการไหล: ทำให้การวัดมีความแปรปรวนสูง
- การเกิดฟองอากาศ: อาจรบกวนการทำงานของ Flow meter บางประเภท
- การสึกหรอของอุปกรณ์: การไหลแบบปั่นป่วนอาจเร่งการสึกหรอของชิ้นส่วนใน Flow meter
- ความดันตกคร่อม (Pressure drop): Flow meter บางชนิดอาจทำให้เกิดความดันตกคร่อมสูงในระบบที่มี Turbulent flow
การเลือก Flow meter สำหรับ Turbulent flow
การเลือก Flow meter ที่เหมาะสมสำหรับการวัดการไหลแบบปั่นป่วนเป็นสิ่งสำคัญ โดยต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้:
- ความทนทานต่อการไหลแบบปั่นป่วน
- ความแม่นยำในการวัดภายใต้สภาวะการไหลที่ไม่สม่ำเสมอ
- ความสามารถในการทนต่อแรงสั่นสะเทือนและความดันที่ผันผวน
- ความเหมาะสมกับลักษณะเฉพาะของของไหลและกระบวนการผลิต
ประเภทของ Flow meter ที่เหมาะสมสำหรับ Turbulent flow
- มาตรวัดการไหลแบบแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Flow meter)
- เหมาะสำหรับของเหลวที่นำไฟฟ้า
- ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนที่ ทนทานต่อการไหลแบบปั่นป่วน
- ให้ความแม่นยำสูงแม้ในสภาวะการไหลแบบปั่นป่วน
- มาตรวัดการไหลแบบคอริออลิส (Coriolis Flow meter)
- วัดมวลของของไหลโดยตรง ไม่ได้รับผลกระทบจากการไหลแบบปั่นป่วน
- ให้ความแม่นยำสูงสำหรับของเหลวที่มีความหนืดสูง
- สามารถวัดความหนาแน่นและอุณหภูมิได้พร้อมกัน
- มาตรวัดการไหลแบบอัลตราโซนิค (Ultrasonic Flow meter)
- ไม่สัมผัสกับของไหลโดยตรง เหมาะสำหรับของเหลวที่กัดกร่อนหรือมีอนุภาคแขวนลอย
- สามารถติดตั้งภายนอกท่อได้
- บางรุ่นสามารถวัดการไหลแบบปั่นป่วนได้อย่างแม่นยำ
- มาตรวัดการไหลแบบ Vortex
- ทำงานได้ดีในสภาวะการไหลแบบปั่นป่วน
- ไม่มีชิ้นส่วนเคลื่อนที่ ทนทานต่อการสึกหรอ
- เหมาะสำหรับของเหลว ก๊าซ และไอน้ำ
บทสรุป
Turbulent flow เป็นปรากฏการณ์ที่พบได้บ่อยในกระบวนการอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม การทำความเข้าใจลักษณะของการไหลแบบปั่นป่วนและผลกระทบต่อการวัดอัตราการไหลมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเลือกใช้และติดตั้ง Flow meter ที่เหมาะสม การพิจารณาปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบ ตั้งแต่การเลือกประเภทของ Flow meter ไปจนถึงเทคนิคการติดตั้งและการใช้งาน จะช่วยให้การวัดอัตราการไหลในสภาวะ Turbulent flow มีความแม่นยำยิ่งขึ้น
Pingback: Laminar flow คืออะไร เข้าใจหลักการไหลแบบราบเรียบ
Pingback: วิธีการติดตั้ง Flow meter (Rotameter) อย่างถูกต้อง